วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558


3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน


ยำขนมจีน อาหารจานเดียวเมนูยำรสเด็ดเผ็ดแซ่บ เปลี่ยนเมนูขนมจีนที่เคย ๆ ให้แน่นเครื่อง ความอร่อยพร้อมเสิร์ฟ 3 สไตล์ให้เลือกสรร

1. ยำขนมจีนรวมมิตร



          เริ่มต้นกันด้วยเมนูยำขนมจีนรวมมิตรสูตรเด็ดจาก คุณเนินน้ำ ที่แค่เห็นภาพก็ชวนเปรี้ยวปากแล้ว ทีเด็ดก็อยู่ที่การปรุงน้ำยำให้แซ่บสะเด็ด อัดเครื่องเคราให้แน่นทั้งกุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้น และไส้กรอก เรียกได้ว่า ค้นตู้เย็นเจออะไรก็จับมาใส่เลยว่าอย่างนั้น 


               ส่วนผสม ยำขนมจีน

                          1. ขนมจีน                            2. กุ้งสด
                        3. ปลาหมึกสด                      4. ไส้กรอกหมู
                        5. ลูกชิ้นปลา                        6.  พริกขี้หนู
                        7. น้ำมะนาว                         8. น้ำปลา
                        9. น้ำตาลทราย                    10. แครอท
                       11. มะเขือเทศ                      12. หอมใหญ่
                       13. ขึ้นฉ่าย                          14. ผักกาดหอม

                  วิธีทำยำขนมจีน

                              
                                  
                                     1. ลวกกุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้น และไส้กรอก เตรียมไว้


2. นึ่งขนมจีนให้ร้อน เตรียมไว้ 
(เราชอบขนมจีนแป้งหมักมากกว่าแป้งสด เพราะนุ่มเหนียวอร่อยกว่า โดยเฉพาะเส้นเล็ก ๆ แบบนี้)


3. ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกขี้หนู คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ


4. ใส่กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้น และไส้กรอกที่ลวกไว้ คนผสมให้เข้ากัน


5. ใส่ขนมจีนคนผสมให้เข้ากัน 


6. ใส่แครอท หอมใหญ่ มะเขือเทศ และขึ้นฉ่ายคนผสมให้เข้ากัน


7. ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม เสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทานค่ะ


2. ยำขนมจีนปลาทูน่าฟู



ต่อไปเราจะชวนมาเพิ่มออฟชั่นเด็ดให้กับยำขนมจีนที่เคย ๆ ด้วยการใส่ปลาดุกฟูกรอบ ๆ ลงไปด้วย นัวระเดกับเมนูที่มีชื่อว่า ยำข้าวปุ้นปลาดุกฟูสูตรอร่อยล้ำจาก คุณ yampink สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม อาจจะมีหลายคนที่ยังไม่เคยกิน ต้องลองเลยค่ะ อ๊ะ อ๊ะ ระวังน้ำลายไหลไม่รู้ตัวนะคะ

           


               ส่วนผสม ยำขนมจีนปลาทูน่าฟู *สูตรนี้ไม่มีอัตราส่วนตายตัวนะคะ ปรุงตามใจชอบ*

                            1. ทูน่ากระป๋อง (ในน้ำมันพืชหรือน้ำเกลือก็ได้นะคะ)
                          2.เกล็ดขนมปัง
                          3. น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
                          4.  พริกป่น
                          5.  น้ำตาลทราย
                          6. น้ำมะนาว
                          7.น้ำปลา
                          8. น้ำปลาร้าต้มสุก
                          9.  ขนมจีน
                         10. ถั่วฝักยาวซอย หรือ ถั่วงอก (ไม่ก็ใส่ทั้งสองอย่างก็ได้ค่ะ)
                         11. ผักชีฝรั่งซอย
                         12.แครอทขูดเป็นเส้น
                         13.เมล็ดกระถิน (อันนี้ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้จ้า) 

                วิธีทำยำขนมจีนปลาทูน่าฟู 

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

1. นำปลาทูน่ากระป๋องมาซับน้ำให้หมาด ๆ แล้วใช้ส้อมยี ๆ ให้เนื้อปลาไม่เป็นก้อน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

2. นำปลาทูน่าที่ยีแล้วมาคลุกกับเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำลงไปทอดในน้ำมันท่วม ๆ ทอดพอเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

3. ทำน้ำยำโดยใส่พริกป่น น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำปลาร้าต้มสุกลงในอ่างผสม ชิมรสที่ชอบ (จะใส่พริกสดหั่นแทนพริกป่นก็ได้นะคะแล้วแต่ชอบเลย)

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

4. เมื่อได้รสที่ชอบแล้ว ใส่ข้าวปุ้น (ขนมจีน) ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

5. ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ลงไปพร้อมกับปลาทูน่าฟูที่ทอดไว้ (อย่าลืมเหลือปลาไว้โรยตอนสุดท้ายด้วยนะคะ) คลุกเคล้าให้เข้ากัน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

6. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ (เสร็จแล้วหน้าตาของเมนูยำข้าวปุ้นปลาทูน่าฟู หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว)


3. ยำขนมจีนทูน่า


3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

อีกหนึ่งสูตรยำขนมจีนใส่ทูน่า ได้รสชาติและความหอมของปลาร้าเบา ๆ พอให้นึกถึงบ้านเกิด ใครที่ไม่แคร์เรื่องการลดความอ้วนแต่อยากกินเอาอร่อยอย่างเดียวขอเชิญชมยำขนมจีนสูตรนี้เลย

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

                 
                          ส่วนผสม ยำขนมจีนทูน่า

                           1. ขนมจีน 2-3 จับ            2. ปลาทูน่ากระป๋อง 1 กระป๋อง
                         3.  แป้งทอดกรอบ             4.ถั่วฝักยาว
                         5. ต้นหอม                       6. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
                         7. มะนาว 2 ลูก                 8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
                        9. น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
                        11.ผักสด ตามชอบ

                     วิธีทำ

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

นำเนื้อปลาทูน่าใส่ลงในตะแกรงแล้วบีบน้ำออกให้แห้งใช้ส้อมยีให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ใส่แป้งทอดกรอบลงไปคลุกกับเนื้อปลาทูน่าให้เข้ากัน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ทอดเนื้อปลาทูน่าที่คลุกแป้งแล้วในน้ำมันร้อน ๆ จนขึ้นฟูตักปลาทูน่าฟูขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำปลาร้า และพริกป่นลงในอ่างผสม บีบน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ใส่ถั่วฝักยาวซอยลงไปคนให้เข้ากัน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ตามด้วยขนมจีน เคล้าให้เข้ากัน

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

 โรยปลาทูน่าทอดกรอบลงไป เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง

3 สูตรยำขนมจีน เมนูสุดแซ่บแบบไหนก็โดน

ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับผักสดตามชอบ


ลองทำกันดูนะ

ขอบคุณสำหรับที่มาของ
http://cooking.kapook.com/view130979.html




วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

น้ำพริกลงเรือ

น้ำพริกลงเรือ

                        ประวัติเกิดขึ้นจาก "คุณจอมสดับ" หรือ "เจ้าจอมหม่อมราชวงค์สดับลดาวัลย์" 
            มีประวัติเล่าถึงน้ำพริกลงเรือเป็น 2 อย่างคือ

                      
                       1.พระเจ้าวงศ์เธอพระเจ้าอุไรรัตน์ศิริมาณ ทรงเล่าว่า เดิมนายรัชกาลที่ 5 เข้าไปอยู่สวนสุนันทาใหม่ๆดินที่ขุดขึ้นมาเพื่อทำพระตำหนัก ทำให้มีสระกว้างใหญ่ต่างองค์ต่างมีเรือพายเล่นวันหนึ่งตอนค่ำ จึงมักจะลงเรือกัน สมเด็จอาหญิงน้อย (สมเด็จเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขนอู่ทองเขตขันติยนารี) ก็ชวนไปกินข้าวในเรือ สั่งว่า "จอมสดับไปดูซิในเรือมีอะไรบ้าง" เวลานั้นยังไม่ถึงเวลาเสวย คุณจอมสดับไปในห้องเครื่องเห็นแต่ ปลาดุกฟู กับ น้ำพริก ตำไว้เท่านั้น จึงหยิบน้ำพริกปลาผัดรวมกับหมูหวาน (หมูหวานโบราณเป็นเครื่องแนบติดครัวเสมอ) พอตักขึ้นก็หยิบไข่เค็มที่ยังไม่ได้ต้มความเป็นคล่องแคล่ว และว่องไวเลยทิ้งไข่ดาวเอาแต่ไข่แดงดิบ วางไปทั้งลูกๆและมัดผักเตรียมมาด้วยถึงเรียก "น้ำพริกลงเรือ"
                        2.หม่อมราชวงค์สุมาลัย เล่าว่า เจ้าจอมสดับได้คิดค้นขึ้นเมื่อครั้งตามเสด็จ รัชกาลที่ 4 และเจ้านายฝ่ายในไปประทับแรมที่ราชวังบางประอินประพาศท้องทุ่ง แบกกระทั่งหางเรือ เจ้าจอมสดับจึงได้เข้าไปในหลังครัว แล้วจึงเกิดน้ำพริกลงเรือขึ้น
        น้ำพริกลงเรือนั้นที่มีมาหลายอย่างซึ้งยังไม่มีใครรู้และแน่นอนว่าน้ำพริกลงเรือนั้น มีความเป็นมาอย่างไร
          *ลักษณะน้ำพริกลงเรือที่ถูกต้อง คือ จะใช้จานลึกหรือชามตื้นๆ สำหรับใส่น้ำพริก + หมูหวาน + ปลาฟู แล้วเอากระเทียมดองปอกเอาแต่กลีบ วางประดับไข่เค็มปั้นเป็นลูกๆ ( กินกับผักสด / ผักที่ขึ้นตามน้ำ)

                       การทำน้ำพริกลงเรือ

           ส่วนผสม
                        - กะปิ                        - พริกขี้หนู
                        - พริกเหลือง               - มะอึก
                        - กระเทียม                   - มะดัน
                        - มะนาว                       - กากหมู
                        - ระกำ                          - กุ้งแห้ง
                        - น้ำเปล่า                     - น้ำตาลทราย

           วิธีการทำ

                             1.ตำกระเทียม + พริกเหลืองให้แหลก ใส่พริกขี้หนูบุบพอแตกบีบมะนาวใส่กะปิ มะดัน มะอึก (สับแล้ว) ใส่กากหมูปรุงรสตามชอบ (อย่าให้หวานมาก) ถ้าไม่เค็มให้เติมกะปิ

                             2.นำน้ำพริกผัดกับน้ำมันหมู ให้หอมพักไว้

                     การทำหมูหวาน

                             1.ต้มหมูใส่เกลือเล็กน้อย 20 นาที ล้างออกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

                             2.ใส่ลงหม้อ เติมน้ำพอถ้วมใสเกลือ ซีอิ๋วดำ ต้มไปจนเกือบเปื่อยใส่น้ำตาลปิ๊บ ชิมรสตามชอบ ต้มต่อจนเปื่อย พอใกล้งวดใส่น้ำตาลทราย (ชิมก่อน) พอหมูได้ที่ใส่น้ำลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ (น้ำตาลทำให้หวานแหลม) ระวังหมูเปื่อยอย่าใช้ช้อนคน ให้เขย่าหม้อแทน

                   การทำไข่วงเดือน

                               - ไข่เค็ม                                   - ไข่เป็ด

               วิธีการทำ
                      
                              1.แยกไข่แดงไข่ขาวทั้งสองอย่าง
                   
                              2. นำไข่ขาวทั้งสองอย่างมารวมกัน กรองด้วยผ้าขาวบาง

                              3, ไข่แดงเอาเฉพาะไข่แดงเค็ม แล้วนำมาปั้นเป็นลูกเล็กๆ

                              4. นำไข่ขาวมาใส่ถ้วยตะไลนึ่งไฟอ่อนสุดพอสุกเล็กน้อยนำไข่แดงที่ปั้นไว้มาใส่แล้วนึ่งให้สุก

                    การทำปลาดุกฟู

                วิธีการทำ

                              1. นำปลาดุกมาทอด / ย่างให้พอสุกอย่าให้แห้ง

                              2. แช่เย็นไว้ 1 คืน

                              3. นำมาแยกเอาแต่เนื้อ สับให้ละเอียด

                              4. ตั้งกะทะไฟปานกลางใส่ปลาดุกสับ ทีละก้อนเล็ก แล้วพับให้สวยงาม ตักขึ้นพักไว้


                  จากนั้นจัดเสิร์ฟใส่จาน ตักน้ำพริกคลุกหวานเล็กน้อย แล้วนำใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับ ปลาดุกฟู ไข่วงเดือน หมูหวาน และผักสด